ประเภทของกีต้าร์
กีตาร์โปร่ง
- Renaissance guitars
- มีขนาดเล็กกว่ากีต้าร์คลาสสิก ให้เสียงที่เบากว่ามาก ใช้สายไนล่อน แบบเดียวกับกีต้าร์คลาสสิก นิยมเล่นในสมัยโบราณ ปัจจุบันไม่ค่อยได้รับความนิยม
- Classical guitars
- กีต้าร์คลาสสิก (Classic Guitar) หรือกีต้าร์สายไนล่อน นิยมเล่นเพลงบรรเลง แบบ single note (finger-picking) ดังนั้น คอกีต้าร์คลาสสิก จึงมีความกว้างกว่ากีต้าร์ไซด์มาตรฐาน ทั่วไป
- Nylon String ชนิด Hybrid (หรือกีตาร์ลูกครึ่งระหว่าง กีตาร์คลาสสิกสายไนล่อน กับ กีตาร์โปร่งสายเหล็ก)
- แม้จะใช้สายกีต้าร์ชนิดไนล่อน แบบเดียวกับกีต้าร์คลาสสิก แต่สัดส่วน องค์ประกอบหลายอย่าง จะต่างจากกีต้าร์คลาสสิก เช่น คอที่เล็กกว่า เพื่อสะดวกในการจับด้วยมือซ้าย
มีภาคไฟฟ้า, คอมี truss rod (เหล็กดามคอ) เพื่อใช้ปรับองศาคอได้, มีคอแบบ cut away, ลำตัว body จะบางกว่ามาตรฐาน เป็นต้น กีต้าร์สายไนล่อนชนิดนี้ สามารถเล่นแนวหรือสไตล์เพลงได้กว้างกว่า กีต้าร์สายไนล่อนชนิด Classic Guitar
- Flat-top (steel-string) guitars หรือที่รู้จักกันในชื่อ กีต้าร์โปร่ง
- กีต้าร์โปร่งสายเหล็กมีหลาย ๆ รูปทรง เช่น กีต้าร์ทรง Dreadnought (D), Orchestra Model (OM), Grand Concert (GC), Grand Auditorium (GA), Jumbo (J), และขนาด 3/4 กีต้าร์ขนาดเล็ก
กีต้าร์โปร่งสายเหล็กต่างกีต้าร์คลาสสิกอยู่หลาย ๆ ประการ เช่น วิธีการเล่น, สายกีต้าร์ที่ใช้, โครงสร้างภายในตัวกีต้าร์หรือ Bracing, เหล็กดามคอหรือ truss rod เพื่อปรับแต่งองศาคอได้ เนื่องจาก แรงดึงของสายกีต้าร์มีมาก อาจจะทำให้องศารอเปลี่ยนได้ ผู้เล่นจึงสามารถปรับแต่งองศาได้ตามความชอบ, กีต้าร์โปร่งสายเหล็ก (Flat-top) ถูกสร้างมามากกว่า 180 ปี (หลังมีกีต้าร์สานไนล่อน) เนื่องจากในวงดนตรี มีเครื่องดนตรีชนิดอื่น ๆ เข้ามาร่วมเล่นด้วย และประกอบกับสไตล์เพลงมีความหลากหลายมากขึ้น ผู้เล่นจึงต้องการกีต้าร์ที่มีเสียงดัง กังวานมากพอ ที่สามารถใช้รวมเล่นกับเครื่องดนตรีประเภทอื่น ๆ ดังนั้น กีต้าร์โปร่งสายเหล็กจึงมีเอกลักษณ์ที่เสียงดังกังวาน กีต้าร์โปร่งสายเหล็กสามารถเล่นได้กว้างหลากหลายสไตล์เพลง เช่น pop, folk, Bluegrass, finger-style, jazz, blues เป็นต้น กีต้าร์โปร่งที่ดี จะต้องให้เสียงที่ดัง กังวาน มีความ balance ของทุก ๆ ย่านเสียง ทุก ๆ สายกีต้าร์ต้อง balance กัน
- Archtop guitars
- จุดเด่นคือ ด้านหน้าของกีต้าร์ (top) จะโค้ง โพรงเสียงไม่เป็นช่องกลม แต่จะเป็นรูปตัว F สะพานยึดสายหรือ Bridge จะแตกต่างจาก กีต้ารโปร่ง
(คนไทยนิยมเรียกว่า หางปลา) นิยมใช้เล่นในดนตรีแจ๊ส และ Blues เอกลักษณ์ของเสียง เสียงของ arch top guitar จะมีเสียงโน้ตห้วน สั้น คือ หางเสียงจะไม่ยาวเหมือกีต้าร์โปร่งสายเหล็กทั่วไป ทั้งนี้ก็เพื่อให้เหมาะกับการเล่นเพลง Jazz, Blues
- Resonator
- หรือ Resophonic หรือ dobro คล้ายกับกีต้าร์ Flat-top นิยมเล่นเพลงสไตล์ Country
- 12 string guitars
- จุดเด่นคือ จะมีสายกีต้าร์ 12 สาย นิยมใช้เล่นในสไตล์เพลง cowboy, country นิยมใช้ตีคอร์ด ไม่นิยมใช้เล่นแบบ picking
- Acoustic bass guitars
- เป็นกีต้าร์เบสในรูปแบบอคูสติก มีสายและเสียงเหมือนกัน โน้ตที่เล่นจะใช้ "กุญแจฟา" ให้เสียงทุ้มต่ำ นุ่มนวล
- Tenor guitars
- มี 4 สาย
- Harp guitars
- จะมีสาย harp เพิ่มขึ้นมา จากปกติที่มี 6 สาย สาย harp จะให้เสียงต่ำหรือเสียงในช่วงเบส ปกติจะไม่มีฟิงเกอร์บอร์ดหรือเฟร็ต
- Ukulele Guitar
- เป็นกีต้าร์ ขนาดเล็ก มี 4 สาย
กีต้าร์ไฟฟ้า[แก้]
แบ่งตามโครงสร้างของลำตัวกีต้าร์ (Body) อาจแบ่งได้เป็น 3 ชนิด คือ
- กีต้าร์ตัวตัน (Solid Body)
- หมายถึง กีต้าร์ไฟฟ้าปกติที่ลำตัวมีลักษณะตัน ไม่มีการเจาะช่องในลำตัวกีต้าร์เหมือนอย่างกีตาร์โปร่ง หรือ อะคูสติกกีตาร์ แต่บริเวณลำตัวจะมีตัวรับสัญญาณแรงสั่นสะเทือนของสายกีต้าร์ (Pick Up) ขณะที่ดีด เพื่อส่งต่อไปยังเครื่องขยายเสียง (Amplifier) ต่อไป โดยทั่วไป ตัวรับสัญญาณจะมี 2 ประเภท คือ ตัวรับสัญญาณแบบแถวเดี่ยวที่เรียกว่า Single Coil และแบบแถวคู่ที่เรียกว่า Humbucker
- กีต้าร์ลำตัวกึ่งโปร่ง (Semi-Hallow Bikini
- เป็นกีต้าร์ไฟฟ้าที่มีลักษณะโครงสร้างส่วนกลางของลำตัวในแนวเดียวกับคอกีต้าร์ มีลักษณะตัน (แต่มีการเจาะช่องเพื่อใส่ตัวรับสัญญาณแรงสั่นสะเทือนของสายกีต้าร์ (Pick Up) เช่นเดียวกับกีต้าร์ตัวตัน) บริเวณส่วนข้างของกีต้าร์มีการเจาะช่อง (Sound Hole) เอาไว้เพื่อให้เกิดการกำทอนของเสียงมากกว่ากีต้าร์ตัวตัน ซึ่งจะให้เสียงที่เป็นอคูสติกมากขึ้น นิยมใช้ในดนตรีแจ๊สหรือบลูส์ เป็นกีต้าร์ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อลดเสียงรบกวนที่เรียกว่าFeed back ซึ่งเกิดจากกีต้าร์ไฟฟ้าลำตัวโปร่ง (กล่าวคือ ยังมีเสียงรบกวนบ้างแต่น้อยลงกว่าเดิม)
- กีต้าร์ลำตัวโปร่ง (Hallow Body)
- กีต้าร์ไฟฟ้าที่มีการเจาะช่องเอาไว้เพื่อให้เกิดการกำทอนของเสียง (Sound Hole) เช่นเดียวกับกีต้าร์โปร่งหรืออคูสติก และกีต้าร์ลำตัวกึ่งโปร่ง ปกติช่องดังกล่าวมักจะอยู่ด้านข้างของลำตัวกีต้าร์ เนื่องจากบริเวณกลางลำตัวจะมีการใส่ตัวรับสัญญาณแรงสั่นสะเทือนของสายกีต้าร์ (Pick Up) เช่นเดียวกันกับกีต้าร์ตัวตัน ซึ่งผลของการที่มีช่องกำทอนเสียง ทำให้ลักษณะของเนื้อเสียงที่ได้เป็นอคูสติกมากกว่า กีต้าร์ Semi-Hallow Body แต่หากขยายเสียงให้ดังมากจะก่อให้เกิดเสียงรบกวนที่เรียกว่า Feed back กีต้าร์ประเภทนี้มักจะนิยมใช้กับดนตรีแจ๊สหรือบลูส์เป็นส่วนใหญ่
- อ้างอิง : https://th.wikipedia.org/wiki/กีตาร์
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น